ลักษณะทั่วไป
เป็นไผ่ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ลักษณะกอเป็นพุ่มแน่น มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์คล้ายกับไผ่ลวก ลำต้นตรง ไม่มีหนาม ต้นสูงเต็มที่ประมาณ 4-5 เมตร มีการแตกกิ่งจำนวน 2-5 กิ่งตลอดทั้งลำ แตกต่างจากไผ่เลี้ยงที่นิยมปลูกทั่วไปจะสูง 7–12 เมตร ขึ้นเป็นกอแน่นแบบหลวมๆ เหมือนกัน ข้อปล้องยาวประมาณ 15-35 ซม. ลำต้นแก่สีเขียวถึงสีเขียวอมเหลือง แตกกิ่งก้านบริเวณกลางลำต้นขึ้นไปถึงปลายยอดตามข้อปล้อง ใบเป็นรูปใบหอกหรือรูปแถบ สีเขียวสด กาบหุ้มบริเวณข้อเป็นรูปสามเหลี่ยมสีเขียวอมเหลือง มีขนสีน้ำตาลปกคลุมหรือเกลี้ยง
การกระจายพันธุ์
สามารถพบได้ในป่าผสมผลัดใบในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือและพบมากที่จังหวัดเลย
ปัจจัยแวดล้อมที่เหมาะสม
เติบโตได้ดีในดินร่วนปนทราย แต่ถ้าหากไม่ใช่ดินร่วนปนทราย ก็สามารถปลูกได้โดยการปรับปรุงดินด้วยอินทรียวัตถุ ไม่ชอบน้ำท่วมขัง แต่ชอบน้ำหล่อเลี้ยงสม่ำเสมอทั้งปี ยกเว้นฤดูฝนหลังปลูก 1 ปี จะให้ร่มเงาดีมาก
การปลูกและการดูแลรักษา
ฤดูที่เหมาะสมควรปลูกไผ่หวานนั้นเป็นช่วงต้นฤดูฝน ควรจะปลูกในเดือนเมษายนหรือเดือนพฤษภาคมจะดีที่สุด แต่หากบริเวณที่ทำการปลูกไผ่หวานมีระบบน้ำที่ดีเพียงพอก็ปลูกได้ตลอดปี แค่ 8 เดือน หลังจากปลูกเสร็จ จะต้องหมั่นตัดหญ้า ที่สวนไผ่บงหวาน จะมีการให้ปุ๋ยและให้น้ำเฉลี่ย เดือนละ 1 ครั้ง ปุ๋ยคอกจะใช้ได้ทั้งขี้วัวเก่าหรือขี้ไก่ หรือแม้แต่เศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรใช้ได้หมด เช่น ซังข้าวโพด กากอ้อย เปลือกถั่วต่างๆ กากยาสูบ ขี้เถ้าแกลบ จะทำให้แตกหน่อสมบูรณ์และมีรสชาติดีเก็บรับประทานหรือเก็บขายได้ราคาสูงตามฤดูกาล
การให้น้ำจะใช้วิธีการแบบปล่อยน้ำเข้าร่องก็ได้ แต่ก่อนปลูกเกษตรกรจะต้องมีการปรับพื้นที่ปลูกเพื่อให้ไล่ระดับน้ำจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ถ้ามีการติดระบบการให้น้ำอย่างดีและมีประสิทธิภาพ จะมีการวางระบบน้ำแบบแถวเดี่ยวหรือแถวคู่ก็ได้ โดย 1 หัวน้ำ จะได้ 4 ต้น วางให้ห่าง ระยะ 3 เมตร ใช้สปริงเกลอร์หัวสูง
ข้อจำกัดของไผ่หวาน
ต้องให้น้ำในช่วงฤดูแล้ง พอฤดูฝนมาถึงไผ่ที่ปลูกก็จะทนต่อน้ำฝนที่ตกหนักได้ ไผ่แทบทุกชนิดจะกลัวน้ำขังโคนในช่วงที่ไผ่ยังเล็กอยู่เพราะมีรากน้อยมาก